กล้องวงจรปิด ราคาพิเศษ จัดโปรโมชั่น DVR Hikvision กล้องวงจรปิด อุปกรณ์ กันขโมย ตรวจจับโลหะ เครื่องตรวจจับโลหะ ครบวงจร ภาพชัดเทคโนโลยีใหม่ H.264 คุณภาพสูง
ตารางตรวจสอบภาพตามขนาดเลนส์โดยทั่วไปจะมีมาตรฐานเกลียวอยู่2ชนิด โดยทั้ง2ชนิดนั้นจะมีเกลียวขนาด 1นิ้ว และมีลักษณะคล้ายๆกัน ถ้าคุณไม่เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะใช้เลนส์กับกล้องของคุณ ซึ่งจะเกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอนถ้าคุณเลือกใช้เลนส์ผิดชนิดกับกล้องของคุณ CS-mount ระยะห่างระหว่างตัวเซ็นเซอร์และเลนส์จะมีขนาด 12.5 มิลลิเมตร C-mount ระยะห่างระหว่างตัวเซ็นเซอร์และเลนส์จะมีขนาด 17.5 มิลลิเมตร โดยสามารถที่จะใช้ C/CS Adapter ring เพื่อที่จะแปลงเลนส์แบบ C-mount ไปเป็นแบบ CS-mount ได้ Sensor size (ขนาดของตัวรับภาพ)เลนส์โดยทั่วไปนั้นจะสร้างภาพที่มีขนาดใหญ่พอสำหรับตัวเซ็นเซอร์ โดยที่เซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะมีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย โดยที่เลนส์ที่มีขนาด ½ นิ้ว ก็จะใช้งานได้สำหรับเซ็นเซอร์ที่มีขนาด 1/2 นิ้ว,1/3 นิ้ว และ ¼ นิ้ว จะไม่สามารถใช้ได้กับเซ็นเซอร์ที่มีขนาด2/3 นิ้ว ถ้าคุณเลือกเลนส์สำหรับเซ็นเซอร์ขนาดเล็กมาใช้งานกับเซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ก็ชะได้ภาะที่มีมุมเป็นสีดำ Focal length (ความยาวของจุดโฟกัส)ความยาวของจุดโฟกัสประกอบกับขนาดของเซ็นเซอร์จะให้มุมที่ดูแตกต่างกัน โดยถ้าขนาดความยาวของโฟกัสสั้นจะให้มุมมองที่กว้าง(wide-angle view) ถ้าขนาดความยาวของจุดโฟกัสยาว จะให้มุมมองที่แคบลง(telephoto view) เลนส์ที่มีมุมมองที่กว้าง(wide-angle view) จะมีมุมมองส่วนลึกของพื้นที่ได้ดีกว่าเลนส์ที่มีมุมมองแคบ(telephoto view) นั้นหมายความว่าคุณสามารถที่จะโฟกัสภาพเข้ามาใกล้ได้จากระยะไกล ซึ่งเลนส์ที่มีมุมมองแคบจะต้องการการโฟกัสภาพที่ถูกต้อง แน่นอนกว่ารูปแบบหลักของเลนส์มีอยู่3แบบคือ- Mono-focal. ความยาวของจุดโฟกัสนั้นถูกกำหนดมา เช่น 4 มิลลิเมตร- Zoom. ความยาวของจุดโฟกัสนั้นสามารถที่จะปรับได้โดยอยู่ในระยะที่กำหนด เช่น 4 ถึง 10 มิลลิเมตร- Varifocal zoom. เป็นเลนส์ซูมที่มีราคาค่อนข้างต่ำ โดยถ้ามีการเปลี่ยนระยะห่างของจุดโฟกัส เลนส์นั้นจะต้องมีการปรับตั้งโฟกัสใหม่ โดยทั่วไปจะมีขนาด 3.5 ถึง 8 มิลลิเมตรตัวอย่างขนาดภาพขนาดใดที่คุณสามารถที่จะเห็นได้ในระยะ10 ฟุต ถ้าคุณใช้กล้องที่มีขนาดเซ็นเซอร์ ¼ นิ้ว และใช้เลนส์ขนาด 4 มิลลิเมตร? H = D x h / f = 10 x 3.6 / 4 = 9 ft Iris(รูรับแสง)ในส่วนของ Iris จะเป็นส่วนที่ใช้กำหนดปริมาณของแสงที่จะผ่านไปสู่เลนส์ โดยที่จะมีลักษณะแตกต่างกันอยู่ 3 แบบคือ - Manual Iris. หมุนปรับได้ที่วงแหวนIris หรือเลือกใช้เลนส์ที่กำหนดค่าIris มาแล้ว โดยเลือกขนาดของIris ทีมีให้ เช่น F1.4, F2.0 เป็นต้น - DC Auto Iris. เชื่อมต่อเข้าที่ช่องต่อout put ของตัวกล้อง โดยที่Iris จะถูกควบคุมโดยตัวกล้องโดย Digital Signal Processor (DSP) - Video Auto Iris. Iris จะถูกควบคุมโดยสัญญาณวีดีโอเลนส์แบบออโต้ไอริสนั้น เหมาะสำหรับงานที่อยู่ภายนอกอาคาร โดยเลนส์นั้นจะสามารถปรับแสงให้เหมาะกับสภาพแสงขณะนั้น โดยที่จะให้คุณภาพแสงที่ดีที่สุด และยังสามารถป้องกันตัวรับภาพจากปริมาณแสงที่มีเข้ามามากเกินไปถ้าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของรูรับแสงนั้นมีขนาดเล็ก จะให้ปริมาณแสงผ่านเข้ามาน้อย จะให้มุมมองส่วนลึกของพื้นที่ได้ดีกว่า(สามารถโฟกัสได้บนระยะที่ไกลกว่า) ถ้าเส้นผ่านศูนย์กลางของรูรับแสงนั้นมีขนาดใหญ่ อีกนัยหนึ่ง จะให้คุณภาพของภาพนั้นดีกว่าในสภาวะที่มีแสงน้อย Iris นั้นถูกกำหนดโดย F-numberF-number =Focal length / Iris diameterถ้าจำนวน F น้อย จะทำให้คุณภาพของภาพนั้นดีกว่าในสภาวะที่มีแสงน้อยกับเลนส์ที่เป็นออโต้ไอริสนั้น จะต้องตั้งโฟกัสภาพในขณะที่มีแสงน้อยเสมอ เพราะถ้ามีการตั้งโฟกัสในขณะที่มีแสงสว่างเยอะนั้น อาจจะทำได้ง่าย แต่ว่าในขณะที่แสงนั้นน้อยลงจะทำให้เส้นผ่านศูนย์กลางของรูรับแสงปรับเล็กลงและอาจจะทำให้ภาพนั้นไม่อยู่ในโฟกัสได้ คุณสามารที่จะใช้ตัวกรองแสงสีดำแบบพิเศษ ซึ่งจะช่วยให้เราลดปริมาณแสงได้ ตัวกรองแสงนี้จะช่วยในการติดตั้งกล้องของคุณได้
แสดงความคิดเห็น
1 ความคิดเห็น:
ตารางตรวจสอบภาพตามขนาดเลนส์
โดยทั่วไปจะมีมาตรฐานเกลียวอยู่2ชนิด โดยทั้ง2ชนิดนั้นจะมีเกลียวขนาด 1นิ้ว และมีลักษณะคล้ายๆกัน ถ้าคุณไม่เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะใช้เลนส์กับกล้องของคุณ ซึ่งจะเกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอนถ้าคุณเลือกใช้เลนส์ผิดชนิดกับกล้องของคุณ
CS-mount ระยะห่างระหว่างตัวเซ็นเซอร์และเลนส์จะมีขนาด 12.5 มิลลิเมตร
C-mount ระยะห่างระหว่างตัวเซ็นเซอร์และเลนส์จะมีขนาด 17.5 มิลลิเมตร โดยสามารถที่จะใช้ C/CS Adapter ring เพื่อที่จะแปลงเลนส์แบบ C-mount ไปเป็นแบบ CS-mount ได้
Sensor size (ขนาดของตัวรับภาพ)
เลนส์โดยทั่วไปนั้นจะสร้างภาพที่มีขนาดใหญ่พอสำหรับตัวเซ็นเซอร์ โดยที่เซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะมีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย โดยที่เลนส์ที่มีขนาด ½ นิ้ว ก็จะใช้งานได้สำหรับเซ็นเซอร์ที่มีขนาด 1/2 นิ้ว,1/3 นิ้ว และ ¼ นิ้ว จะไม่สามารถใช้ได้กับเซ็นเซอร์ที่มีขนาด2/3 นิ้ว ถ้าคุณเลือกเลนส์สำหรับเซ็นเซอร์ขนาดเล็กมาใช้งานกับเซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ก็ชะได้ภาะที่มีมุมเป็นสีดำ
Focal length (ความยาวของจุดโฟกัส)
ความยาวของจุดโฟกัสประกอบกับขนาดของเซ็นเซอร์จะให้มุมที่ดูแตกต่างกัน โดยถ้าขนาดความยาวของโฟกัสสั้นจะให้มุมมองที่กว้าง(wide-angle view) ถ้าขนาดความยาวของจุดโฟกัสยาว จะให้มุมมองที่แคบลง(telephoto view)
เลนส์ที่มีมุมมองที่กว้าง(wide-angle view) จะมีมุมมองส่วนลึกของพื้นที่ได้ดีกว่าเลนส์ที่มีมุมมองแคบ(telephoto view) นั้นหมายความว่าคุณสามารถที่จะโฟกัสภาพเข้ามาใกล้ได้จากระยะไกล ซึ่งเลนส์ที่มีมุมมองแคบจะต้องการการโฟกัสภาพที่ถูกต้อง แน่นอนกว่า
รูปแบบหลักของเลนส์มีอยู่3แบบคือ
- Mono-focal. ความยาวของจุดโฟกัสนั้นถูกกำหนดมา เช่น 4 มิลลิเมตร
- Zoom. ความยาวของจุดโฟกัสนั้นสามารถที่จะปรับได้โดยอยู่ในระยะที่กำหนด เช่น 4 ถึง 10 มิลลิเมตร
- Varifocal zoom. เป็นเลนส์ซูมที่มีราคาค่อนข้างต่ำ โดยถ้ามีการเปลี่ยนระยะห่างของจุดโฟกัส เลนส์นั้นจะต้องมีการปรับตั้งโฟกัสใหม่ โดยทั่วไปจะมีขนาด 3.5 ถึง 8 มิลลิเมตร
ตัวอย่าง
ขนาดภาพขนาดใดที่คุณสามารถที่จะเห็นได้ในระยะ10 ฟุต ถ้าคุณใช้กล้องที่มีขนาดเซ็นเซอร์ ¼ นิ้ว และใช้เลนส์ขนาด 4 มิลลิเมตร? H = D x h / f = 10 x 3.6 / 4 = 9 ft
Iris(รูรับแสง)ในส่วนของ Iris จะเป็นส่วนที่ใช้กำหนดปริมาณของแสงที่จะผ่านไปสู่เลนส์ โดยที่จะมีลักษณะแตกต่างกันอยู่ 3 แบบคือ
- Manual Iris. หมุนปรับได้ที่วงแหวนIris หรือเลือกใช้เลนส์ที่กำหนดค่าIris มาแล้ว โดยเลือกขนาดของIris ทีมีให้ เช่น F1.4, F2.0 เป็นต้น
- DC Auto Iris. เชื่อมต่อเข้าที่ช่องต่อout put ของตัวกล้อง โดยที่Iris จะถูกควบคุมโดยตัวกล้องโดย Digital Signal Processor (DSP)
- Video Auto Iris. Iris จะถูกควบคุมโดยสัญญาณวีดีโอ
เลนส์แบบออโต้ไอริสนั้น เหมาะสำหรับงานที่อยู่ภายนอกอาคาร โดยเลนส์นั้นจะสามารถปรับแสงให้เหมาะกับสภาพแสงขณะนั้น โดยที่จะให้คุณภาพแสงที่ดีที่สุด และยังสามารถป้องกันตัวรับภาพจากปริมาณแสงที่มีเข้ามามากเกินไป
ถ้าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของรูรับแสงนั้นมีขนาดเล็ก จะให้ปริมาณแสงผ่านเข้ามาน้อย จะให้มุมมองส่วนลึกของพื้นที่ได้ดีกว่า(สามารถโฟกัสได้บนระยะที่ไกลกว่า) ถ้าเส้นผ่านศูนย์กลางของรูรับแสงนั้นมีขนาดใหญ่ อีกนัยหนึ่ง จะให้คุณภาพของภาพนั้นดีกว่าในสภาวะที่มีแสงน้อย Iris นั้นถูกกำหนดโดย
F-number
F-number =Focal length / Iris diameter
ถ้าจำนวน F น้อย จะทำให้คุณภาพของภาพนั้นดีกว่าในสภาวะที่มีแสงน้อย
กับเลนส์ที่เป็นออโต้ไอริสนั้น จะต้องตั้งโฟกัสภาพในขณะที่มีแสงน้อยเสมอ เพราะถ้ามีการตั้งโฟกัสในขณะที่มีแสงสว่างเยอะนั้น อาจจะทำได้ง่าย แต่ว่าในขณะที่แสงนั้นน้อยลงจะทำให้เส้นผ่านศูนย์กลางของรูรับแสงปรับเล็กลงและอาจจะทำให้ภาพนั้นไม่อยู่ในโฟกัสได้ คุณสามารที่จะใช้ตัวกรองแสงสีดำแบบพิเศษ ซึ่งจะช่วยให้เราลดปริมาณแสงได้ ตัวกรองแสงนี้จะช่วยในการติดตั้งกล้องของคุณได้
แสดงความคิดเห็น